จะปลิวอีกไหม สรยุทธ เปิดเพลงเข้ารายการ รับ พิธา ชาวเน็ตหยอก เจ้าของเพลงจะว่าอะไรไหม
เรียกได้ว่าก่อนหน้านั้นถึงกับช่องปลิวคามือ สำหรับ ผู้ประกาศข่าวชื่อดัง อย่างสรยุทธ สุทัศนจินดา ที่ล่าสุด เป็นที่ฮือฮาอีกรอบ สำหรับเพลง เราคือเพื่อนกัน ของวงสามัญชน เมื่อ สรยุทธ สุทัศนะจินดา นำมาเปิดกลางรายการเรื่องเล่าเช้านี้ เพื่อโหมโรงรับแขกรับเชิญพิเศษ อย่าง พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โดยพิธีกรชื่อดัง ที่เคยชวนให้ชาวเน็ตบางส่วนที่พาคณะทัวร์มาลง ออกมา กรี๊ดสิครับกรี๊ด หยอกเย้าหอมปากหอมคอ ว่าเพลงนี้ พรรครวมไทยสร้างชาติเคยนำไปใช้ในคลิปหาเสียง แต่เจ้าของเพลงเข้าไม่ให้ แล้วตนจะโดนว่าอะไรไหม ?
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
สำหรับเพลง เราคือเพื่อนกัน คือ ผลงานของวงสามัญชน ซึ่งก่อตั้งขึ้นเพื่อต่อต้านการรัฐประหาร โดยมีสมาชิกแรกเริ่ม 2 คน ร่วมกันแต่งเพลงเราคือเพื่อนกัน เพื่อใช้รณรงค์ช่วยเหลือพลเรือน ที่ถูกพิจารณาคดีในศาลทหารเพียงเพราะชุมนุมรำลึกครบรอบ 1 ปีรัฐประหาร ซึ่งประกอบไปด้วยคุณ รังสิมันต์ โรม, ปกรณ์ อารีกุล, ชลธิชา แจ้งเร็ว ฯลฯ
เพลงดังกล่าว ถูกนำมาใช้อีกครั้งอย่างต่อเนื่องในการชุมนุมของกลุ่มคนรุ่นใหม่ในแฟลชม็อบที่ต่อมาเรียกว่ากลุ่มราษฎร หรือคณะราษฎร 63 โดยวงสามัญชนปรากฏตัวแสดงสดทั้งในเวทีปราศรัยขนาดใหญ่ รวมถึงในการชุมนุมย่อยในมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
จนกลายเป็นเพลงสำคัญประจำการชุมนุมที่ติดหู ต่อมา ยังถูกนำไปใช้ในการชุมนุมอื่นๆสำหรับเรียกร้องความเป็นธรรม อาทิ การชุมนุมเพื่อให้กำลังใจชาวเมียนมา โดยมีการแปลเนื้อเพลงเป็นภาษาเมียนมาประกอบ
และก่อนเริ่มพูดคุยในรายการคุณสรยุทธ ได้บอกว่าด้วยความเป็นกลางขอถามคุณพิธาว่า เห็นคุณพิธา ไปพูดที่ไหน ก็บอกว่าตัวเองเป็นว่าที่นายกฯตลอด ในอดีตวัฒนธรรมการเมืองแบบเดิม เขาจะสงวนท่าทีจนกว่าจะประกาศรับรองเป็นทางการ แต่คุณพิธาไม่ใช่อย่างงั้น แหกกฏออกไปเลย ถามว่าเพราะอะไร
พิธา ผมว่าผมก็ระมัดระวังตัวพอสมควรนะ ส่วนใหญ่ก็จะใช้คำว่า ว่าที่นายกรัฐมนตรีเพราะว่า กกต.ก็ยังไม่ได้รับรองผล แต่ผมคิดว่าในช่วงที่เป็นสุญญากาศทางการเมือง แบบนี้มันใช้เวลานานเนาะ จำได้ว่าฟังข่าวตุรกี ใช้เวลา 2-3 วันก็สามารถที่จะประกาศได้ ให้มันเป็นเรื่องความเชื่อมั่น ความมั่นใจว่าเรายังมี เป็นรัฐบาลในช่วงที่ต้องส่งมอบ ให้รัฐบาลที่ต้องเข้ามา ก็คือว่าณปัจจุบันตรงนี้มันยังมีเรื่องติดที่ต้องไปโหวตกันในสภาก่อนอันที่หนึ่ง อันที่สอง ก็คือพลเอกประยุทธ นายกคนปัจจุบัน ก็ไม่เคยประกาศยอมแพ้ แล้วก็ยังไม่เคยส่งมอบงาน ตามปกติเดี๋ยวนี้ในโลกสมัยใหม่ ความเปลี่ยนแปลงมันเร็วมาก เพราะฉนั้นมันต้องมีการ เปลี่ยนผ่านของอำนาจแบบไร้รอยต่อ เพื่อที่จะให้ประชาชนมาเป็นที่ตั้ง แล้วก็ทำงานต่อได้ แต่ทุกวันนี้มันก็มีหลายเรื่อง ที่ยังไม่มีคำตอบ ตกลงดีเซล 32 บาท หรือ 37 บาท ตกลงเรือดำน้ำ 3 หมื่นห้าพันล้าน ยังไงต่อทุกสิ่งทุกอย่างเนี่ย รัฐบาลชุดใหม่รอเวลาเข้ามาแก้ไข ตรงนี้ก็ 2-3 เดือนที่ ประชาชนจะต้องเดือดร้อน เราก็ไม่อยากจะเป็นช่วงฮันนีมูล
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ไม่อยากเป็นช่วงปฐมนิเทศน์ เมื่อถึงเวลาสภาเลือกเป็นนายกฯ เข้าไปจริงๆก็ต้องทำงานได้เลย ไม่ต้องมานั่งเรียกประชุมหรือว่า หรือตั้งคณะกรรมการ คือตั้งก็คือตั้งตอนนี้เพื่อที่จะ แต่พอไปถึงปุ๊บรู้ว่าประชุมครม.วันแรก วาระควรที่จะมีอะไรบ้าง เพื่อที่จะเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง อย่างเมื่อวานที่เมื่อกี้เพิ่งออกข่าว ไปที่ท้องถิ่น 100 วันแรก ภัยแล้งมาแน่นอนแล้ว PM2.5อาจจะมาแล้ว ที่ผ่านมาท้องถิ่นทำงานไม่ได้เพราะ ติดกฏหมายข้อไหน ติดงบประมาณตรงไหน ถ้าเกิดเรารู้ตรงนี้เราสามารถ แก้ไขได้ ใช้แค่ระเบียบกระทรวงมหาดไทย คราวหน้าถ้าจะต้องมีฝนตกหนัก หรือ เอลนีโญ ที่อ่านข่าวกันบ่อยๆ ช่วงเวลา PM2.5 จะกลับ เข้ามาเรารู้แล้วว่าอะไรที่ทำให้เขาประกาศ เขตภัยพิบัติไม่ได้ อะไรที่เขาทำใช้งบประมาณไม่ได้ ถ้าทำ อย่างนี้ได้คราวนี้ปัญหาที่จะเกิดขึั้นเนี่ยประชาชนจะได้รู้สึกว่ามีความเปลี่ยนแปลง ประชาชนรอไม่ได้